“น้ำทิพย์ สุคลฑา” เตรียมพบกับเราได้ เร็ว ๆ นี้
ในสมัยพุทธกาล ได้มีการบูชาด้วยอามิสบูชา คือ การบูชาด้วยดอกไม้ ด้วยของหอม เครื่องหอม โดยส่วนมากในสมัยพุทธกาล ผู้คนจะนำดอกไม้ ของหอม มาบูชาพระพุทธเจ้า และพระภิกษุ
ที่พระคันธกุฎีของพระพุทธเจ้า จะมีทั้งอุบาสก อุบาสิกา นำดอกไม้ของหอมมาบูชาพระพุทธเจ้า ทำให้กุฎีของพระพุทธเจ้าหอมฟุ้ง กระจายไปทั่วบริเวณ จึงเรียกว่า คันธกุฎี (ชื่อกุฎี ซึ่งเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า เดิมหมายถึง กุฎีที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษที่เชตวัน มีกลิ่นหอม สำหรับเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า) และในปัจจุบันที่เราถวาย ดอกไม้ ของหอม กับพระพุทธรูป เพื่อเป็นการน้อมสักการะบูชาพระพุทธคุณของพระพุทธเจ้า
ความเป็นมาดังกล่าว จึงก่อให้เกิด คติ ความเชื่อ เกี่ยวกับการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยเครื่องหอม ของหอม เพื่อดลบันดาลให้ผู้ที่บูชา ขอพร ได้รับพรสมความปรารถนา ประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ให้ปลอดภัยจากภยันตราย และให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ซึ่งใช้ความหอมเป็นสื่อกลาง ในการบูชา ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรียกว่าสิ่งเหล่านี้อยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทยเรามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
จากเรื่องราวข้างต้น จึงทำให้มีคำบอกเล่าจากครูบาอาจารย์ และก่อให้เกิดแนวคิด กลายเป็นผลิตภัณฑ์ “น้ำทิพย์ สุคลฑา” ซึ่งเป็นน้ำหอม ที่ทรงคุณค่า เป็นสิริมงคล ถูกต้องตามตำรับ ตำรา คำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ ปรุงด้วยกลิ่นดอกไม้ที่มีความหมายเป็นมงคล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ขององค์เทพ ๙ ชนิด อีกทั้งน้ำทิพย์ สุคลฑา ทุกขวดผ่านพิธีพุทธาภิเษก ผสมด้วยทองคำเปลวบริสุทธิ์ ที่ผ่านการปลุกเสกแล้วทุกแผ่น ซึ่งทองคำนั้น ถือเป็นธาตุกายสิทธิ์ เป็นอมตะ หนักแน่นด้วยพลังงาน และคุณค่า เพื่อเพิ่มพลังความศักดิ์สิทธิ์ สัมฤทธิ์ผลในการใช้ฉีด พรม บูชา ถวาย และขอพรจากสิ่งศักดิ์ และองค์เทพทุกๆ องค์
การทำบุญ บูชาองค์เทพ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยของหอม นอกจากเราจะได้บุญ ได้ความสงบ สบายใจ ได้พลัง มีความมั่นใจ และมีความสุขแล้ว ยังเป็นการช่วยเสริมบรรยากาศรอบ ๆ ให้รื่นรมย์ยิ่งขึ้น ผู้ที่เข้ามาในบริเวณที่มีกลิ่นหอมของน้ำทิพย์ สุคลฑา ก็จะสุขใจ
น้ำทิพย์ สุคลฑา น้ำหอมแห่งพลังศรัทธา และการขอพร
“น้ำทิพย์ สุคลฑา” เตรียมพบกับเราได้ เร็ว ๆ นี้
#Hashtag
#sukoldha #สุคลฑา #น้ำทิพย์สุคลฑา #เครื่องหอม